เสียงตีเหล็กจากห้องแถวเล็กๆในชุมชนตลาดน้อย เสียงดังมาจากห้องแถวเล็กๆ คูหาเดียว ข้างบ้านโซวเฮงไถ่ กลางห้องมีทั่งขนาดใหญ่ และเตาไฟที่จุดด้วยถ่านไม้ไผ่ หลังเตามี เฮียเกรียงศักดิ์ เกิดผลเจริญยิ่ง วัย 70 ปี ยังคงเปิดเตาตีเหล็กอยู่อย่างเข้มแข็ง เสียงค้อนกระทบเหล็กดังเป็นจังหวะ วันนี้เฮียเกรียงศักดิ์ทำคีมจับสำหรับหล่อพระ
“ทำงานเหล็กมีหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมีที่เขามาสั่งให้ทำ อย่างคีมนี่ใช้กับการหล่อพระใช้จับเบ้า ส่วนใหญ่เป็นงานเล็กๆ น้อยๆ ยังมีงานทำอยู่เราก็ทำ ยังมีแรงก็ตีไป” กว่าจะคุยกันได้ยาวขนาดนี้ต้องตะโกนคุย ไม่ใช่เพราะเฮียตีเหล็กไปคุยไป แต่หูของเฮียเสียจากการทำงานฟังเสียงเหล็กกระทบนับร้อยนับพันครั้งมาอย่างยาวนานนับสิบๆ ปี เฮียได้รับการถ่ายทอดวิชาตีเหล็กมาจากบิดาและสืบทอดมากว่า 50 ปี เป็นงานทำมาตั้งแต่วัยรุ่น เริ่มจาการช่วยพ่อ แล้วรับช่วงต่อมา
“คงไม่เปลี่ยนไปทำอะไรแล้ว อายุขนาดนี้แล้ว เรายังทำได้ก็ทำไป ไม่ไหวก็เลิกเพราะลูกหลานเขาเรียนสูงเขาทำงานแบบของเขา งานของเราอย่างที่ทำนี่ถ้าเราไม่ทำ ช่างที่เขาต้องใช้อุปกรณ์แบบนี้ก็จะไม่มีใช้ ”
ในอดีตตลาดน้อยเป็นชุมชนที่ขึ้นชื่อในการทำงานเหล็ก ภูมิปัญญาที่ได้รับถ่ายทอดจากบรรพบุรุษที่เดินทางมาใช้ชีวิตในเมืองไทย สมอเรือ แหนบรถ ตะขอ เกือกม้า ฯลฯ เป็นผลผลิตของเตาหลอม ที่อยู่ตามบ้านเรือนของคนที่นี่ เวลาที่ผ่านไป หลังสงครามโลกครั้งที่สอง หลายครอบครัวหันมาทำธุรกิจอะไหล่รถยนต์มือสองนำเข้าจากต่างประเทศ จนตลาดน้อยมีชื่อเป็นแหล่งค้าอะไหล่ แม้เวลาเปลี่ยนแต่เสียงตีเหล็กยังคงดังจากตึกแถวเล็กๆ วันนี้เสียงตีเหล็กเริ่มเบาเสียงลง จากจำนวนเตาที่ดับลงไปพร้อมกับกำลังและชีวิตของช่าง ว่ากันว่าเตาของเฮียเกรียงศักดิ์ คือ เตาสุดท้ายที่ยังคงทำงานเหล็กอยู่ เป็นเครื่องยืนยันว่าชุมชนแห่งนี้เป็นช่างฝีมือทำงานเหล็กผลิตงานที่ได้รับการยอมรับแลเป็นที่ต้องการแม้เวลาจะเปลี่ยนผ่าน ธุรกิจจะเปลี่ยนแปลง ไม่รู้ว่าไฟในเตาสุดท้ายนี้จะดับลงเมื่อไหร่ ตราบเท่าที่ยังมีเรียวแรงเฮียเกรียงศักดิ์ยังขอทำงานที่รักต่อไป